จุดเริ่มต้นภาพยนตร์สไปเดอร์แมน (Spider-Man)
สไปเดอร์แมน (Spider-Man) เป็นตัวละครซุปเปอร์ฮีไร่ที่มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์และวงการการ์ตูน เริ่มต้นจากคนธรรมดาที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไรสักอย่าง! เด็กหนุ่มวัยรุ่นได้ถูกแมงมุมกัมมันตภาพรังสีกัด จนเขาได้กลายเป็นสไปเดอร์แมนพระเอกของเรื่องในทันที สไปเดอร์แมนได้กลายเป็นตัวแทนของความรับผิดชอบและการต่อสู้กับความชั่วร้ายในโลกของ Marvel Comics เปิดตัวในหนังสือการ์ตูน”Amazing Fantasy”ปี 1962 ฉบับที่ 15 ในเดือนสิงหาคมเป็นผลงานสร้างสรรค์ของนักเขียน Stan Lee และนักวาด Steve Ditko
แต่ในช่วงเวลานั้นเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่มักจะเป็นตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่ แต่สไปเดอร์แมน (Spider-Man)มีความแตกต่าง เพราะเขาเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีชีวิตไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในเรื่องของฐานะและครอบครัว เด็กนักเรียนมัธยมที่ต้องจัดการกับปัญหาในชีวิตประจำวันพร้อมกับการเป็นฮีโร่ ทำให้เขาโดดเด่นและเป็นที่รักของผู้อ่านในทันทีต้องบอกเลยว่า สไปเดอร์แมน (Spider-Man) ภาพยนตร์ในปัจจุบันมีหลายภาคต่อ แต่ละภาคนำเสนอเรื่องราวสุดตื่นเต้น รวมถึงตัวละครใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกภาค เรารับรองเลยค่ะ ว่า สไปเดอร์แมน (Spider-Man) เป็นตัวแทนดีๆ ให้กับเด็กๆ ได้จดจำในสถานะผู้พิทักษ์โลกให้อยู่แบบสันติอีกด้วย วันนี้บทความของเรารวบรวมข้อมูลดีๆ มาฝาก รับรองเลยว่าผู้อ่านหายสงสัยแน่นอนค่ะ? พร้อมแล้วอย่ารอช้ามาต่อที่บทความด้านล่างกันเลยดีกว่าค่ะ
ประวัติผู้แต่งสไปเดอร์แมน (Spider-Man)
Stan Lee และ Steve Ditko นับว่าเป็นสองบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังมาตั้งแต่ต้นเลยค่ะ Stan Lee ผู้แต่งและผู้สร้างสรรค์เรื่องราวแนวความคิดอีโร่จากมนุษย์ที่ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ให้มีความพิเศษและเหนือกว่าเทพเจ้า เขามีจุดมุ่งหมายที่ต้องการตัวละครให้คนธรรมดาๆ สามารถที่จะเชื่อมโยงได้ ส่วน Steve Ditko นักวาดภาพที่มีจินตนาการสร้างสรรค์ผลงานในชีวิตลักษณะเด่นๆ ของสไปเดอร์แมนในการ์ตูนนั่นเองค่ะ นับว่าสุดยอดมากฝีมือที่ทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมมากที่สุด และนอกจากนี้ Stan Lee มีส่วนในการสร้างตัวละครและสร้างโลกของ Marvel Comics ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ผลงานของเขาไม่ได้มีแค่สไปเดอร์แมน แต่ยังมีฮีโร่อีกหลายตัว เช่น Fantastic Four, X-Men, และ The Avengers
นิสัยของสไปเดอร์แมน
สไปเดอร์แมน หรือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Peter Parker) เขามีนิสัยที่ซับซ้อนและน่าสนใจ ในชีวิตคนธรรมดาเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก(ก่อนที่เขาจะเป็นสไปเดอร์แมนเขาเป็นคนที่ขี้อายมากๆ และมีปัญหาในการเข้าสังคมเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ ) เมื่อเขาได้รับพลังงาน พิเศษจากแมงมุมกัมมันตภาพรังสี เขาได้เรียนรู้ว่า “With great power comes great responsibility” (ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่) เขาเป็นคนไม่ยอมแพ้และเข้มแข็งต่ออุปสรรคที่เขาเจอมาโดยตลอด แม้จะเกิดความยากลำบาก แต่เขาก็ยังมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ทุกๆ คน แม้การเป็นสไปเดอร์แมนจะต้องยอมเสียสละการใช้ชีวิตส่วนตัว และยังต้องจัดการกับความรัก ความสัมพันธ์ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ อีกด้วย แต่การช่วยเหลือผู้อื่นกลับทำให้เขามีความสุขและเขาเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้ทำให้เขาได้สัมผัสการเป็นฮีโร่ที่แท้จริง
สไปเดอร์แมน (Spider-Man) ทำไมเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง
สไปเดอร์แมน เป็นภาพยนตร์ที่ดังมาจากหลายๆ ปัจจัย เรื่องราวที่เกิดขึ้นสามารถเข้าใจได้ง่าย เชื่อมโยงให้กับผู้ชมได้ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถที่จะรับชมได้ค่ะ สไปเดอร์แมนเป็นเพียงเด็กมัธยมที่ธรรมคนหนึ่งทำให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงตัวละครตัวนี้ได้อย่างลึกซึ้งรวมถึงการใช้ชีวิตในประจำวัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงการต่อสู้กับตัวร้ายเพียงอย่างเดียว ภายในภาพยนต์ยังมีฉากที่น่าตื่นเต้น และความประทับใจไปกับฉากแอ็คชั่นและเทคนิคพิเศษที่ทันสมัยอีกด้วย ทำให้ผู้ชมได้รับความสนุกและข้อคิดทุกครั้งที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่ได้รวบรวมดาราและนักแสดงมากฝีมือมาถ่ายทอดอารมณ์ให้กับคุณได้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย (นับว่าเป็นตัวละครที่เหมาะสมกับบทบาทที่สุด) สเดอร์แมนเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) นี่เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์สไปเดอร์แมนมีชื่อเสียง หนึ่งในส่วนการเชื่อมโยงเรื่องราวของสไปเดอร์แมนกับฮีโร่อื่นๆใน MCU ทำให้ผู้ชมทั่วโลกมีความสนใจและติดตามเรื่องราวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั่นเอง
บทสรุปไปเดอร์แมน(Spider-Man)
ภาพยนตร์สไปเดอร์แมน เป็นภาพยนตร์ที่มีหลายภาคและเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย สไปเดอร์แมน(Spider-Man) ถือว่าเป็นฮีโร่ของเด็กๆ เลยค่ะ และยังเป็นอีกหนึ่งตัวละคร ที่ทรงอิทธิพลและเป็นที่ชื่นชอบผู้คนทั่วโลกอีกด้วย จากการ์ตูนไปสู่ภาพยนตร์สไปเดอร์แมน แมงมุมแดงตัวละครตัวนี้สื่อออกมาให้เห็นถึงความกล้าหาญความรับผิดชอบ ความเสียสละและเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อป้องกันอันตราย เขาไม่ได้เพียงต่อสู้กับวายร้ายเพียงอย่างเดียว!
แต่ยังเป็นเรื่องราวของการเติบโตและการเรียนรู้การใช้ชีวิต เพราะการสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมทำให้สไปเดอร์แมนไม่เคยหายไปจากปัจจุบันเลยค่ะ และยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทุกยุคทุกสมัย ความสำเร็จของภาพยนตร์สไปเดอร์แมนเป็นหลักฐานยืนยันถึงความนิยมและความสำคัญของตัวละครในทุกๆ การปรากฏตัวของแต่ละภาค สไปเดอร์แมนได้สอนเราว่า การเป็นฮีโร่ไม่ได้หมายถึงการมีพลังพิเศษ แต่เป็นการเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องแม้ในยามที่ยากลำบาก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้สไปเดอร์แมนเป็นฮีโร่ที่แท้จริง